Thursday, April 28, 2011

อาบน้ำเด็กให้ปลอดภัย

อาบน้ำถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกสำหรับคุณกับลูกๆ ค่ะ แต่ควรระวังในเรื่องความปลอดภัยด้วยนะคะ วันนี้เราจึงมีวิธีอาบน้ำให้เด็กๆ อย่างปลอดภัยมาฝากค่ะ
1.อย่าทิ้งเด็กไว้ตามลำพังแม้วินาทีเดียว เพราะนั่นอาจหมายถึงชีวิต ควรเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำทุกอย่างให้พร้อม สามารถหยิบจับได้ทันที ถ้ามีเสียงโทรศัพท์หรือคนมากดกริ่งหน้าบ้าน ให้อุ้มเด็กออกมาวางบนตัก ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนู แล้วอุ้มเขาไปด้วยกันกับคุณค่ะ
2.ควรตรวจสอบห้องน้ำให้มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป เวลาอาบจะได้สบายตัว
3.อย่างวางเด็กลงในอ่างน้ำขณะที่น้ำในฝักบัวยังไหลอยู่ เพราะอุณหภูมิของน้ำอาจเปลี่ยน เด็กอาจจะตกใจได้ค่ะ
4.ตรวจสอบความปลอดภัยของอ่างน้ำเสมอ ต้องไม่ลื่น ควรมีแผ่นยางรองอาบน้ำ ส่วนเก้าอี้ที่คุณนั่งกับพื้นห้องน้ำต้องไม่ลื่น เพราะถ้าอาบไปแล้วเก้าอี้เกิดลื่น คุณอาจจะล้ม และเด็กอาจได้รับอันตรายได้
5.น้ำควรมีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป
6.ใส่น้ำในอ่างให้สูงเพียง 2-3 นิ้วก็พอ สำหรับทารกวัย 6 เดือนขึ้นไป ระดับน้ำไม่ควรสูงกว่าเอว
7.สำหรับเด็กที่เริ่มนั่งได้แล้ว ควรสอนให้นั่งในอ่างน้ำ และอาจจะหาของเล่นชิ้นเล็กที่ปลอดภัย เพื่อสร้างความเพลิดเพลินในการอาบน้ำมากขึ้น
8.ไม่ควรให้เด็กนั่งแช่ในอ่างน้ำที่มีสบู่หรือแชมพูนานเกินไป เพราะผิวของเด็กยังบอบบาง อาจเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นได้ และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะด้วย
9.อย่าอาบใกล้ก๊อกน้ำ เพราะเด็กอาจจะไปโดนก๊อกน้ำ เกิดการบาดเจ็บได้
10.เก็บเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องเป่าผม ออกไปห่างๆ เลยนะคะ แล้วเวลาอาบน้ำก็จะเป็นเวลาแห่งความสุขของคุณกับลูกเสมอค่ะ

Wednesday, April 20, 2011

สาเหตุที่เด็กปวดท้อง

หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน จนบางคนคิดว่า ยัยนี่หายไปไหน ทำไมไม่มาเขียนบทความ หรือว่าคิดมุขไม่ออกแล้ว...แต่ขอบอกว่า ช่วงก่อนต้องเดินทางไปนู่นมานี่บ่อยๆ เลยไม่ค่อยมีเวลามานั่งเขียนบทความดีๆ ให้ทุกคนอ่านกัน แต่ว่าวันนี้ มีเรื่องดีๆ มาฝากแล้วค่ะ เห็นว่าอากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เลยอาจทำให้เด็กเบื่ออาหาร หรือมีปัญหาเรื่องปวดท้องได้มาฝากค่ะ
สาเหตุที่ทำให้เด็กปวดท้องอยู่บ่อยๆ นั้น มีหลายอย่าง เช่น กินอาหารมากเกินไปจนท้องอืด เพราะอาหารไม่ย่อย หรือดื่มน้ำน้อยเกินไป หรือกินอาหารที่ย่อยยากเกินไป การดูดนิ้วมือบ่อยๆ หรือการดูดนมก็อาจทำให้มีนมในลำไส้มากได้เหมือนกัน
ซึ่งการดูแลรักษานั้นไม่ยากเลยค่ะ ก็คือ ถ้าลูกงอแงก็ให้อุ้มลูกพาดบ่า แล้วค่อยๆ ลูบหลังเบาๆ เพื่อให้เด็กได้เรอเอาลมออกมา จะได้ทุเลาอาการปวดท้องค่ะ หรืออาจใช้มหาหิงคุ์ทาทั่วๆ ท้องของเด็กบางๆ หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนอุ่นๆ วางประคบที่ท้องของเด็ก ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดท้องได้ค่ะ
แล้วอย่าลืมสังเกตอาหารที่เด็กกินเข้าไปด้วยนะคะ ว่าเป็นอาหารที่ย่อยยากหรือเปล่า จะได้งดอาหารประเภทนั้นค่ะ

Monday, January 17, 2011

เบนความสนใจของเด็ก

เด็กบางคนนั้นมีความซุกซนมาก จนคนเป็นพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง รู้สึกว่า นี่มันลูกคนหรือลูกลิงกันแน่ อิอิ เพราะเล่นซนจนเอาไม่อยู่เลย

แต่ถ้าอยากจะพิชิตความซนของเด็กๆ เหล่านั้นให้ได้ ก็ไม่ยากเลยค่ะ เราแค่อาศัยการหลอกล่อ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลดีเสมอสำหรับเด็กเล็กๆ โดยเฉพาะเด็กวัยก่อน 1 ขวบ

โดยเราอาจจะหารูปภาพผลไม้หรือรูปสัตว์ต่างๆ มาติดไว้ที่ข้างผนัง พอเวลาที่ลูกเล่นซนไปเรื่อย ก็ให้คุณพ่อหรือคุณแม่นั่งชี้รูปที่ผนังแล้วพูดคุยไปเรื่อยๆ อาจร้องเพลงท่องชื่อผลไม้ หรือเล่าถึงสัตว์ชนิดนั้นๆ รับรองเลยค่ะว่าลูกคุณจะหยุดซน และหันมานั่งดูรูปกับคุณอย่างสนอกสนใจค่ะ

Friday, December 24, 2010

ให้เด็กกินข้าวเอง

บางครั้งถ้าเด็กๆ งอแงไม่ยอมกินข้าว อาจเกิดความเลอะเทอะ ที่เกิดจากการก่อกวนของเด็กๆ ได้ค่ะ เพราะเด็กมักจะเบือนหน้าหนี เวลาถูกป้อนอาหารไงคะ ทีนี้คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็กลุ้มใจอีก ว่าจะทำยังไงดีนะ ที่จะให้ลูกกินข้าว...

เรามีวิธีแก้ไขค่ะ คือ ปล่อยให้แกกำช้อนเอง ตักข้าวใส่ปากด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามันจะต้องเลอะเทอะมากแน่ๆ แต่ก็ได้ผลนะคะ เพราะเด็กจะกินข้าวได้เยอะเป็นพิเศษในมื้อที่แสนสนุกสนานนั้น (แต่เหนื่อยคนเก็บกวด อิอิ)

Thursday, December 23, 2010

เพลงสอนเด็ก

ทราบมั้ยคะว่า เราสามารถใช้บทเพลงสอนเด็กให้เรียนรู้ได้ ตั้งแต่ยังเป็นเจ้าตัวน้อยๆ อยู่เลย เช่น ร้องเพลง กขค ABC ให้ฟังครั้งแล้วครั้งเล่าค่ะ

หรือแม้แต่การนับเลข 1 - 10 ก็สามารถแต่งเป็นทำนองเพลงได้ตามใจชอบค่ะ โดยจะต้องหมั่นร้องอย่างสม่ำเสมอนะคะ เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคย และยังเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการแก่ระบบสมองของเด็กด้วย แม้ว่าเด็กจะยังไม่สามารถท่องจำได้สักนิดก็ตามค่ะ 

Tuesday, December 21, 2010

ไม่มีเวลาเที่ยว

ในช่วงที่พ่อแม่ไม่มีเวลาพาเด็กไปเที่ยวนอกบ้าน อาจจะด้วยเวลาไม่มี หรือปัญหาการเงินก็ตาม แต่เราสามารถอยู่กับบ้าน โดยสอนให้ลูกได้เรียนรู้จักสรรพสิ่งต่างๆ รอบกาย ที่ควรรู้จักได้ อีกทั้งยังเป็นเหมือนการพาลูกท่องเที่ยวไปอย่างเพลิดเพลินได้ด้วย

โดยการหาสมุดภาพ สิ่งของ และสถานที่ต่างๆ มาชี้ให้ลูกดูและสอนลูก เช่น นี่คือเสือ เสือร้องคว่าๆ นี่คือบ้าน นี่คือลูกโป่ง ทะเล ภูเขา เป็นต้น จะทำให้เด็กได้รับความเพลิดเพลิน ได้รู้จักสิ่งต่างๆ และเมื่อเจอของจริง เด็กก็จะจำได้ แต่ว่าต้องสอนกันซ้ำๆ บ่อยๆ ด้วยนะคะ

Wednesday, December 15, 2010

เมื่อเด็กฉี่รดที่นอน

เด็กที่ยังอายุไม่ถึงขวบปี ย่อมมีอาการฉี่รดที่นอนอยู่เป็นประจำค่ะ แต่แม้ว่าจะเป็นธรรมชาติของเด็กเล็ก แต่เราสามารถฝึกให้เด็กเลิกฉี่รดที่นอนได้ตั้งแต่อายุเพิ่งได้ 7 เดือนเท่านั้นค่ะ

โดยเมื่อเวลาที่เด็กนอนหลับไปได้สัก 2 - 3 ชั่วโมง ให้อุ้มแกไปฉี่แล้วอุ้มไปนอนต่อ อีก 2 ชั่วโมงต่อมา ก็อุ้มไปฉี่อีก ทำอย่างนี้บ่อยๆ และอย่าเห็นเป็นเรื่องเหนื่อยนะคะ เพราะมันได้ผลดีมาก เมื่อเด็กค่อยๆ โตขึ้น ก็จะส่งสัญญาณ หรือขอให้เราพาไปฉี่ทันทีที่แกรู้สึกตัวตื่นขึ้น และมีอาการปวดฉี่

Tuesday, December 14, 2010

เมื่อเด็กตื่นมาแล้วโยเย

รู้มั้ยคะว่า เราสามารถฝึกให้ลูกเป็นเด็กที่ตื่นมาพร้อมกับอารมณ์ที่สดใส ไม่โยเยได้ด้วยการใช้เวลาช่วงแรกๆ กับการมานั่งรอลูกตื่น

เมื่อเด็กตื่นแล้วก็คอยยิ้มแย้มและพูดคุยต้อนรับ สัมผัสลูก หอมลูก ให้มีตุ๊กตาตัวโปรดอยู่ใกล้ๆ กับแกด้วยนะคะ แล้วพอแกตื่น พ่อหรือแม่ก็ต้องทักตุ๊กตาของแกด้วย

หลังจากทำเช่นนี้เป็นประจำ เมื่อเด็กตื่นมาไม่เจอพ่อแม่ เด็กก็จะมีอารมณ์ดีได้เอง โดยไม่รองโยเยกวนใจคุณพ่อคุณแม่ค่ะ