Friday, December 24, 2010

ให้เด็กกินข้าวเอง

บางครั้งถ้าเด็กๆ งอแงไม่ยอมกินข้าว อาจเกิดความเลอะเทอะ ที่เกิดจากการก่อกวนของเด็กๆ ได้ค่ะ เพราะเด็กมักจะเบือนหน้าหนี เวลาถูกป้อนอาหารไงคะ ทีนี้คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็กลุ้มใจอีก ว่าจะทำยังไงดีนะ ที่จะให้ลูกกินข้าว...

เรามีวิธีแก้ไขค่ะ คือ ปล่อยให้แกกำช้อนเอง ตักข้าวใส่ปากด้วยตัวเอง แน่นอนว่ามันจะต้องเลอะเทอะมากแน่ๆ แต่ก็ได้ผลนะคะ เพราะเด็กจะกินข้าวได้เยอะเป็นพิเศษในมื้อที่แสนสนุกสนานนั้น (แต่เหนื่อยคนเก็บกวด อิอิ)

Thursday, December 23, 2010

เพลงสอนเด็ก

ทราบมั้ยคะว่า เราสามารถใช้บทเพลงสอนเด็กให้เรียนรู้ได้ ตั้งแต่ยังเป็นเจ้าตัวน้อยๆ อยู่เลย เช่น ร้องเพลง กขค ABC ให้ฟังครั้งแล้วครั้งเล่าค่ะ

หรือแม้แต่การนับเลข 1 - 10 ก็สามารถแต่งเป็นทำนองเพลงได้ตามใจชอบค่ะ โดยจะต้องหมั่นร้องอย่างสม่ำเสมอนะคะ เพื่อให้เด็กเกิดความคุ้นเคย และยังเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการแก่ระบบสมองของเด็กด้วย แม้ว่าเด็กจะยังไม่สามารถท่องจำได้สักนิดก็ตามค่ะ 

Tuesday, December 21, 2010

ไม่มีเวลาเที่ยว

ในช่วงที่พ่อแม่ไม่มีเวลาพาเด็กไปเที่ยวนอกบ้าน อาจจะด้วยเวลาไม่มี หรือปัญหาการเงินก็ตาม แต่เราสามารถอยู่กับบ้าน โดยสอนให้ลูกได้เรียนรู้จักสรรพสิ่งต่างๆ รอบกาย ที่ควรรู้จักได้ อีกทั้งยังเป็นเหมือนการพาลูกท่องเที่ยวไปอย่างเพลิดเพลินได้ด้วย

โดยการหาสมุดภาพ สิ่งของ และสถานที่ต่างๆ มาชี้ให้ลูกดูและสอนลูก เช่น นี่คือเสือ เสือร้องคว่าๆ นี่คือบ้าน นี่คือลูกโป่ง ทะเล ภูเขา เป็นต้น จะทำให้เด็กได้รับความเพลิดเพลิน ได้รู้จักสิ่งต่างๆ และเมื่อเจอของจริง เด็กก็จะจำได้ แต่ว่าต้องสอนกันซ้ำๆ บ่อยๆ ด้วยนะคะ

Wednesday, December 15, 2010

เมื่อเด็กฉี่รดที่นอน

เด็กที่ยังอายุไม่ถึงขวบปี ย่อมมีอาการฉี่รดที่นอนอยู่เป็นประจำค่ะ แต่แม้ว่าจะเป็นธรรมชาติของเด็กเล็ก แต่เราสามารถฝึกให้เด็กเลิกฉี่รดที่นอนได้ตั้งแต่อายุเพิ่งได้ 7 เดือนเท่านั้นค่ะ

โดยเมื่อเวลาที่เด็กนอนหลับไปได้สัก 2 - 3 ชั่วโมง ให้อุ้มแกไปฉี่แล้วอุ้มไปนอนต่อ อีก 2 ชั่วโมงต่อมา ก็อุ้มไปฉี่อีก ทำอย่างนี้บ่อยๆ และอย่าเห็นเป็นเรื่องเหนื่อยนะคะ เพราะมันได้ผลดีมาก เมื่อเด็กค่อยๆ โตขึ้น ก็จะส่งสัญญาณ หรือขอให้เราพาไปฉี่ทันทีที่แกรู้สึกตัวตื่นขึ้น และมีอาการปวดฉี่

Tuesday, December 14, 2010

เมื่อเด็กตื่นมาแล้วโยเย

รู้มั้ยคะว่า เราสามารถฝึกให้ลูกเป็นเด็กที่ตื่นมาพร้อมกับอารมณ์ที่สดใส ไม่โยเยได้ด้วยการใช้เวลาช่วงแรกๆ กับการมานั่งรอลูกตื่น

เมื่อเด็กตื่นแล้วก็คอยยิ้มแย้มและพูดคุยต้อนรับ สัมผัสลูก หอมลูก ให้มีตุ๊กตาตัวโปรดอยู่ใกล้ๆ กับแกด้วยนะคะ แล้วพอแกตื่น พ่อหรือแม่ก็ต้องทักตุ๊กตาของแกด้วย

หลังจากทำเช่นนี้เป็นประจำ เมื่อเด็กตื่นมาไม่เจอพ่อแม่ เด็กก็จะมีอารมณ์ดีได้เอง โดยไม่รองโยเยกวนใจคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

Monday, December 13, 2010

ให้เด็กเต้นระบำคนป่า

เมื่อลูกมีอายุครบ 1 ขวบ พ่อแม่อาจจะสอนให้ลูกเต้นระบำคนป่าในงานวันเกิดของแกเองและเต้นอีกในวันต่อๆ ไปค่ะ เพราะเด็กวัย 1 ขวบ ชอบที่จะลุกยืนด้วยตัวเอง และชอบการเลียนแบบที่สุด

พ่อแม่อาจทำท่าเต้นระบำคนป่า โดยอาจจะยืนกางขา ทำท่าย่อขาลงเป็นจังหวะ กางมือชูขึ้นโบกไปมาบ้าง กางออกไปข้างๆ บ้าง แล้วแต่จะสรรค์สร้างได้ตามใจคุณเลยค่ะ

เด็กจะเต้นตามอย่างเมามัน แถมยังส่งเสียงหัวเราะสลับกับเสียงพูดคุยเป็นตุเป็นตะอย่างชอบอกชอบใจค่ะ

Saturday, December 11, 2010

จับเด็กมาเต้นระบำกันเถอะ

เราสามารถจับลูกวัย 6 - 7 เดือน มาเต้นระบำได้ค่ะ โดยเปิดเพลงสนุกๆ หรือคุณพ่อคุณแม่จะร้องเพลงเองก็ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน

ใช้มือทั้งสองจับเอวลูกให้มั่นคง โดยจับลูกให้อยู่ในท่ายืน แล้วโยกตัวไปทางซ้าย - ขวา จับแขนซ้ายชูขึ้น โบกมือไปมา และสลับกันกับแขนขวาบ้าง

ทีนี้ก็ยกขาน้อยๆ ของลูกส่ายไปมาทีละข้าง เมื่อลูกเต้นระบำจนจบเพลงจึงค่อยให้นอน พ่อแม่ควรเล่นแบบนี้กับลูกบ่อยๆ นะคะ เพราะเป็นทั้งการออกกำลังกายให้เด็ก และการเล่นที่สนุกสนานอีกด้วยค่ะ

Friday, December 10, 2010

หัดให้เด็กแปรงฟัน

ถ้าอยากให้เด็กๆ คุ้นเคยกับการแปรงฟัน ก็ลองซื้อแปรงสีฟันเล็กๆ มาให้ลูกเล่นดูนะคะ จะให้เล่นตั้งแต่ลูกอายุแค่ 6 - 7 เดือนก็ได้ค่ะ ส่วนเวลาอาบน้ำให้ลูก พ่อแม่ก็ต้องแปรงฟันให้ลูกเห็นด้วยนะคะ เพื่อสร้างความคุ้นเคยค่ะ เมื่อเด็กโตเกิน 1 ขวบ ได้สัก 4 - 5 เดือน เด็กจะแปรงฟันเองได้ และไม่เกิดความกลัวในการแปรงฟันค่ะ

วิธีการฝึก จะต้องฝึกก่อนวัยแปรงฟันนะคะ ให้แกได้ลองแปรงแบบแห้งๆ ดูก่อน พร้อมกับร้องเพลงแปรงฟันให้แกได้สนุก ให้คุณพ่อหรือคุณแม่เป็นคนคอยตรวจยิ้ม ว่าฟันสะอาดมั้ย จะทำให้เด็กอยากแปรงฟันค่ะ แล้วอย่าลืมหายาสีฟันรสผลไม้ให้เด็กๆ ด้วยนะคะ

Thursday, December 9, 2010

เด็กชอบดูดนิ้วมือ

ถ้าเด็กๆ ที่บ้านติดนิสัยชอบดูดนิ้วแล้วล่ะก็ พ่อแม่ควรรีบจัดการหาทางให้ลูกเลิกดูดนิ้ว หรืออมนิ้วก่อนถึง 1 ขวบนะคะ หลายคนอ่านแล้วเครียดเลย เพราะไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน แบบว่าหาวิธีมานานแล้ว แต่ไม่ได้ผลซะที...

ไม่ต้องกลัวค่ะ วันนี้เรามีวิธีทำให้เด็กเลิกดูดนิ้วมาฝากค่ะ โดยการหาผลมะแว้งมาโขลกให้แหลก เอาน้ำจากผลมะแว้งมาทานิ้วมือของเด็กนะคะ เมื่อเด็กเผลอดูดนิ้ว ก็จะมีรสขมๆ และพอทำหลายๆ ครั้ง เด็กก็จะเลิกดูดไปเองค่ะ ลองเอาไปใช้ดูนะคะ

Wednesday, December 8, 2010

สอนเด็กจากเรื่องใกล้ตัว

พ่อแม่รู้มั้ยคะว่า เราสามารถสอนเด็กๆ ให้เรียนรู้ได้ แม้ว่าเด็กจะอายุอยู่ในปีแรก ซึ่งเราจะสอนจากสิ่งใกล้ตัวเด็กก่อน และสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเด็กที่สุด ก็คือตัวของเด็กนั่นเองค่ะ

เวลาอาบน้ำ ทาแป้ง หรือแต่งตัวให้ลูก พ่อแม่ควรพูดคุยและสอนไปด้วยว่า นี่มือ นี่เท้า นี่จมูก นี่ผม เป็นต้น แล้วอย่าเบื่อที่จะต้องพูดซ้ำๆ เหมือนเดิมทุกวันนะคะ เพราะว่า คุณจะแปลกใจว่าทำไมลูกยังไม่ถึงขวบเลย ก็สามารถชี้ได้ถูกต้องทั้งหมด เมื่อเวลามีคนถามว่า มืออยู่ไหน เท้าอยู่ไหน จมูกอยู่ไหนค่ะ

Tuesday, December 7, 2010

ให้เด็กหัดใช้ช้อน

พ่อแม่บางคนอาจคิดว่า การให้ลูกหัดใช้ช้อนตักข้าวหรือน้ำซุปเองนั้น เป็นการสร้างความพยายามให้แก่เด็ก แต่จริงๆ แล้วควรหัดให้ลูกใช้ช้อนตักอาหารที่ตักง่ายๆ ก่อน เช่น กล้วยบด ขนมเค้กชิ้นเล็กๆ ซึ่งเด็กจะใช้ช้อนตักใส่ปากได้อย่างง่ายดาย เพราะกล้วยบดและขนมเค้กจะติดที่ช้อนได้ดี แม้ว่าเด็กจะทำหกเลอะเทอะบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่มากเท่าการตักข้าว ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เด็กมีกำลังใจ และไม่ท้อต่อการฝึกหัดใช้ช้อนค่ะ ทั้งนี้ เด็กบางคนนอกจากจะย่อท้อแล้ว อาจทำให้เด็กไม่อยากกินข้าวไปเลยก็ได้นะคะ

Monday, December 6, 2010

เมื่อเด็กอมข้าว

พ่อแม่ควรให้การกินของลูกเป็นเหมือนการเล่นเกมนะคะ เพื่อที่เราจะได้แก้ปัญหาเรื่องการกินที่แสนจะยากของเด็กๆ ค่ะ โดยอาจจะเล่นเกมตักข้าวใส่ช้อนวางไว้ แล้วก็ปิดตา นับ 1 – 20 โดยต้องนัดแนะกับเด็กก่อนนะคะว่า ถ้าลูกมากินข้าวภายในการนับ 1 – 20 ของแม่หรือพ่อแล้ว ลูกจะได้ 1 คะแนน ซึ่งถ้าแม่หรือพ่อนับถึง 20 แล้วลืมตาดู ยังเห็นข้าวเต็มช้อนอยู่ แสดงว่าลูกแพ้ แล้วแม่หรือพ่อจะได้ 1 คะแนนค่ะ

โดยแต่ละวัน ก็ทำบัตรสะสมแต้มไว้ด้วย และมีเงื่อนไขว่า ถ้าลูกทำแต้มได้ 50 หรือ 100 คะแนน ก็ให้นำบัตรสะสมไปแลกของขวัญได้ตามใจชอบ

Sunday, December 5, 2010

เด็กกับปลา

คุณพ่อคุณแม่รู้มั้ยคะว่า มีอาหารหลายอย่างที่เราสามารถฝึกให้ลูกกินได้ ตั้งแต่ช่วงที่แกยังเป็นเด็กทารกค่ะ เพราะความรู้สึกต่อต้านจะมีไม่มากเหมือนตอนโตเกิน 1 ขวบแล้ว

โดยเฉพาะปลา เพราะเป็นอาหารสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อสมองของเด็กๆ และเด็กมักจะไม่ชอบกินนัก หากว่าแกเริ่มต้นชิมปลาครั้งแรกแล้วบังเอิญเจอรสคาวของการปรุงบางวิธี

ซึ่งพ่อแม่อาจจะบดเนื้อปลาให้ละเอียด โดยเอาก้างออกให้มากที่สุด แล้วปั้นเป็นก้อนกลมๆ เล็กๆ นำไปตุ๋นกับข้าว เหยาะซอสเล็กน้อย (พูดแล้วอยากกินปลาเผาเกลือ) เด็กก็จะคุ้นเคยกับรสชาติของปลา และพอโตขึ้นอีกนิด เด็กก็จะชอบกินปลาในที่สุดค่า

เมื่อเด็กลงน้ำครั้งแรก

สวัสดีค่ะ....ไม่ได้เจอกันหลายวันเลยนะคะ พอดีช่วงนี้ไม่ค่อยสบายเลยค่ะ อากาศก็เริ่มหนาวแล้วด้วย เลยมีคนป่วยกันอยู่บ่อยๆ รวมทั้งคนเขียนด้วย อิอิ

แต่วันนี้อาการดีขึ้นแล้วค่ะ เลยมีเรื่องการอาบน้ำเด็กมาฝากค่ะ ซึ่งมีความสำคัญอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ และเป็นเรื่องที่ต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยค่ะ เพราะเด็กที่เล็กมากๆ มักจะกลัวน้ำ ดังนั้นเมื่อจะนำเด็กอาบน้ำ จึงต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ คุณพ่อและคุณแม่ต้องดูแลให้รอบคอบ ตั้งแต่อุณหภูมิของน้ำ จะต้องไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป

และเมื่อเวลาหย่อนตัวเด็กลงน้ำแล้วเด็กเกิดร้องไห้ขึ้นมา หรือมีอาการเกร็งขา เกร็งแขนก็ต้องอุ้มขึ้นมาปลอบก่อนนะคะ อย่าฝืนจับลูกอาบน้ำทั้งๆ ที่เค้ายังร้องและต่อต้านอยู่นะคะ

ซึ่งถ้าจะให้เด็กรู้สึกดีขึ้น ก็ให้ใช้วิธีจับนอนบนตัก แล้วลูบไล้ตัวเด็กด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆ ให้ทั่วตัว หรืออาจจะบีบฟองน้ำให้น้ำหยดลงบนตัวเด็กก็ได้ค่ะ จากนั้นก็เริ่มฟอกสบู่ แล้วล้างออกด้วยฟองน้ำชุบน้ำ แล้วจึงค่อยๆ จับตัวลูกหย่อนลงในอ่าง เป็นการล้างน้ำครั้งสุดท้าย และอย่าลืมเล่นกับลูกตลอดเวลา เพื่อเด็กจะได้ไม่มีอาการเกร็งค่ะ