ช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย พ่อแม่ระวังลูกๆ ที่บ้านจะเป็นหวัด เป็นไข้ด้วยนะคะ เพราะเดี๋ยวก็ฝนตก เดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็หนาวอีกละ เด็กๆ เลยปรับตัวลำบากค่ะ
และเมื่อเด็กมีอาการตัวร้อนหรือเป็นไข้ ให้นำปรอทมาวัดอุณหภูมิดูว่ามีอุณภูมิสูงหรือไม่ ถ้ามีอุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้ค่ะ แต่ถ้าสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาจจะเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือเป็นไข้รุนแรงได้
และเมื่อเด็กมีอาการตัวร้อนหรือเป็นไข้ ให้นำปรอทมาวัดอุณหภูมิดูว่ามีอุณภูมิสูงหรือไม่ ถ้ามีอุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้ค่ะ แต่ถ้าสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาจจะเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือเป็นไข้รุนแรงได้
ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กมีไข้สูงบ่อยๆ นะคะ เพราะเด็กอาจจะชักได้ และถ้าเด็กมีอาการชักจนหมดสติบ่อยๆ อาจทำให้สติปัญญาของเด็กเสื่อมลงได้ค่ะ
ซึ่งการที่เด็กป่วยเป็นไข้นั้น อาจมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อต่างๆ หรือมีสิ่งสกปรกแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย หรืออาจมีการฉีกขาดของเนื้อเยื่อขึ้น
ถ้าพบว่าเด็กมีไข้ตัวร้อน ต้องเช็ดตัวด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆ ทั้งซอกคอ รักแร้ ขาหนีบ ควรใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น บิดให้หมาด แล้วเช็ดแรงๆ จนทั่วตัว และเช็ดจนผ้าร้อนแล้วจุ่มน้ำใหม่ จากนั้นก็เช็ดตัวให้แห้ง ควรให้เด็กสวมเสื้อผ้าที่สบายๆ ไม่ต้องมีความหนา การเช็ดตัว ควรจะเช็ดทุกชั่วโมงเพื่อลดความร้อนของพิษไข้ได้ค่ะ
แต่ถ้าเด็กมีไข้ไม่สูงมาก ก็ให้นอนพักผ่อนมากๆ ให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ หรือดื่มน้ำผลไม้ นอนที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก และให้กินยาลดไข้ชนิดน้ำค่ะ
No comments:
Post a Comment